โครงการที่ 6 : กระบอกสำรอกกิเลส
ปี 2532
ในปีเดียวกัน อันเป็นการต่อเนื่องจากโครงการลอกคราบ เมื่อผู้ติดยาเลิกเสพได้ พระพยอมได้วางแผนให้ผู้ติดยา เก็บออมทรัพย์ที่จะนำไปใช้ในทางที่ผิด โดยให้นำเงินที่จะไปซื้อเหล้า ยา บุหรี่ เก็บเข้ากระบอกไม้ไผ่ ที่ท่านนำแจกแก่คนทั่วไป เป็นการออมทรัพย์ เมื่อกระบอกเต็มยังสามารถนำไปใช้กับตนเอง หรือนำไปทำบุญแก่ผู้เดือดร้อนทั่วไป คือ โครงการกระบอกสำรอกกิเลส
เจตนาของโครงการนี้ พระพยอม ได้วางแผนสกัดกั้น กลุ่มคนที่มักจะหลงใหลไปในทางที่ผิดติดอบายมุข เมื่อท่านได้ให้การอนุเคราะห์เรื่องที่พัก อาหาร และสวัสดิการที่จำเป็นแก่กลุ่มผู้ประสบเคราะห์กรรม บุคคลดังกล่าวก็ยังได้รับเงินสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว และเป็นกำลังใจที่ท่านมอบให้ แต่เนื่องจากพวกเขายังคงมีความต้องการแบบเดิม ท่านจึงจัดการให้มีโครงการกระบอกสำรอกกิเลส ไว้ป้องกันการใช้จ่ายด้านนี้ไว้
โครงการนี้สามารถทำให้ผู้ด้อยโอกาสเก็บออมทรัพย์ไว้ได้ส่วนหนึ่ง เมื่อเงินออมสะสมเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีแก่พวกเขาเหล่านี้ เป็นการสอนให้เห็นอย่างชัดเจนระหว่างการใช้เงินแบบสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย กับการเก็บประหยัดไว้ครั้งละเล็กครั้งละน้อย ทำให้โครงการนี้บรรลุจุดประสงค์ได้อย่างดีเยี่ยม
บรรดาห้างร้านบริษัทตลอดทั้งผู้มีจิตศรัทธาทั่วไป ได้เห็นประโยชน์ของโครงการนี้ จึงได้ร่วมใจนำกระบอกไม้ไผ่ ไปไว้ในสถานที่ของตน ทำให้ผู้ใจบุญได้มีโอกาสทำบุญด้วยวันละเล็กละน้อย เมื่อกระบอกเต็มจึงนำมามอบแก่มูลนิธิต่อไป รายได้ส่วนหนึ่งที่ผู้ใจบุญร่วมศรัทธา เป็นการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของมูลนิธิได้อย่างมาก ทั้งยังทำให้ผู้เก็บออมมีความประหยัดและเก็บออมได้ทุกวัน เมื่ออยากจะทำบุญวันละเล็กละน้อยก็สามารถทำได้ทันทีที่บ้าน เป็นการสำรอกความเห็นแก่ตัวของตนเองออก ให้ชีวิตเราเบาสบาย พอสำรอกความเห็นแก่ตัวได้เต็มกระบอกแล้ว จะนำมาบริจาคที่วัด หรือจะทำที่ไหนก็ได้ ไม่มีการผูกมัดใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ดังนี้
1. เพื่อสกัดมิจฉาชีพที่ปลอมเป็นพระ ชี ออกเรี่ยไรเงินชาวบ้าน
2. เพื่อรวบรวมบุญ ที่กระจายเป็นเบี้ยหัวแตกให้เป็นกอบเป็นกำที่ได้จากการสะสม
3. เพื่อช่วยสงเคราะห์สังคมต่าง ๆ ในกรณีเร่งด่วนเฉพาะกาล เช่น ค่าอาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียนผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ
4. เพื่อประโยชน์ของผู้สะสมเอง ในเวลาเกิดขัดสนก็นำเงินนี้ช่วยตนเองได้ทันที
โครงการนี้มิใช่เป็นการเรี่ยไร หากแต่เป็นการสอนให้รู้จักเก็บออมทรัพย์ ที่หามาได้ อันจะเป็นทางที่ช่วยตนเองและผู้อื่น ซึ่งเป็นวิธีที่แยบยล กินใจได้อย่างลึกซึ้ง ที่พระพยอม ได้คิดขึ้นมาอย่างได้สาระ เป็นจิตศิลปะแขนงหนึ่งที่ควรศึกษา
|
|
|