โครงการที่ 7 : ช่วยน้องท้องหิว
ปี 2534
ในช่วงปิดเทอม นักเรียนในโรงเรียน ตามต่างจังหวัดที่ยากจน จะเข้ามาหาทุนการศึกษาในมูลนิธิสวนแก้ว ท่านได้จัดหางาน ที่เหมาะสมให้เด็กนักเรียนทำ และติดต่อหาสถานที่นำสินค้าไปจำหน่ายซึ่งเด็กนักเรียนเหล่านี้จะได้รับทุนการศึกษากลับไปศึกษาต่อ เป็นการผ่อนปรนภาระของพ่อแม่ได้อย่างมาก คือ โครงการเพื่อน้องท้องหิว
พระพยอม ได้ให้โรงเรียนต่าง ๆ ส่งเด็กนักเรียนที่ยากจนประสงค์จะหารายได้พิเศษเป็นทุนการศึกษาในวันหยุด โดยท่านจัดให้เด็กบำเพ็ญประโยชน์ภายในวัด ออกทุนให้ขายของเป็นการสอนให้เด็กรู้จักทำงานหาเงิน ให้รู้จักคุณค่าและความเหนื่อยยากในการที่จะได้เงินมาเป็นพื้น ฐานนิสัยในการประหยัด
|
|
|
อาสาสมัครนานาชาติ เข้าร่วมกิจกรรมกับนักเรียน
และสอนภาษาให้กับนักเรียนอย่างใกล้ชิด |
แม้จะเหนื่อย แต่ลูกของหลวงพ่อก็สนุกกับงาน |
|
นักเรียนในโครงการเพื่อน้องท้องหิว เข้าพบกับ คุณชัช เตาปูน
เพื่อมอบกระเช้าขอบคุณที่มอบหนังสือพิมพ์สยามรัฐให้เด็กนักเรียนจำหน่ายในวันหยุดภาคเรียน |
|
โครงการนี้ได้ส่งเสริมให้เด็กได้งานทำที่ดี มีความก้าวหน้าในอนาคตหลายคนแล้ว ทั้งนี้จากการสนับสนุนของห้างร้านบริษัทที่เด็กเหล่านี้ไปทำงานด้วย ซึ่งทางบริษัทได้มองเห็นความมีมานะ อดทน ขยันซื่อสัตย์ที่เด็กเหล่านี้ได้ปฏิบัติตามที่ได้รับการอบรมมา
เด็กหลายคนจึงได้รับการอุปการะให้ได้เล่าเรียนต่อในกรุงเทพมหานครจนจบมหาวิทยาลัย จากนายจ้างที่มีเมตตา การทำงานของเด็กนักเรียนในขณะที่อยู่ในมูลนิธิ พระพยอมได้มอบหมายงานที่เหมาะสมกับวัย พร้อมทั้งสอนให้เด็กมีความรับผิดชอบที่ดี มีความขยันอดทน และทำงานเป็นกลุ่มได้ นับว่าเป็นการปูพื้นฐานการทำงานที่ดีแก่เด็กนักเรียนได้อย่างยั่งยืน
|
|
ทุกคนจะได้รับทุนการศึกษาและสิ่งของต่างๆ จากหลวงพ่อพระพยอม
ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจการหาทุนการศึกษาในวันหยุดภาคเรียน |
|
|
ปี 2557
ในช่วงภาคฤดูร้อน มีนักเรียนจากต่างจังหวัดอื่นเข้ามาทำงานที่จะขอรับทุนการศึกษาจาก มูลนิธิสวนแก้วฯ ในปีนี้จำนวน 600 คน มูลนิธิสวนแก้วฯ จัดสรรงานให้ทำโดยตามความถนัด เด็ก ๆ จะได้รับค่าแรง 150.- บาท /วัน + เบี้ยขยัน และเด็กที่มีอายุน้อยกว่าจะได้รับค่าแรง 120.-บาท ต่อวัน + เบี้ยขยัน ทุกคนจะได้รับอาหาร 3 มื้อและที่พักฟรีกับทุกคน
มูลนิธิสวนแก้วฯ สรุปทุนการศึกษาช่วงภาคฤดูร้อนนี้ ได้จ่ายทุนการศึกษาประมาณ 4 ล้านบาท
เด็กส่วนใหญ่มีความสุข และคาดว่าจะกลับมาในอนาคต
|
|
|